หลังจากคราวที่แล้ว 「อิโต ตอน①」และนำข้อมูล และวิธีการเดินทางมายังอิโตแล้ว คราวนี้เรามาดูแหล่งท่องเที่ยวของอิโตกันบ้าง โดยวันนี้จะมานำเสนอ สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ กันครับ ♬
โจกะซากิ ไคกัง : โจกะซากิไคกัง เป็นแนวภูเขาหินลาวาริมชายฝั่งทะเล ซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟโอมุระยามะเมื่อ4,000ปีที่แล้ว ดังนั้นหินและหน้าผาของที่นี่ก็จะเป็นลาวา ซึ่งมีลักษณะสีดำและแหลมคมผิดกับลักษณะของ วิวภูเขาต่างๆที่เราเคยเห็นมา
โดยเราสามารถไปชมความสวยงามของหน้าผานี้ได้2วิธีคือ
1.1 การนั่งเรือเที่ยวชม
ซึ่งในวิธีนี้เราจะมองเห็นวิวทิวทัศน์จากด้านทะเลเข้าหาฝั่ง ใช้เวลาในการเดินเรือไปกลับก็ประมาณ30นาที ค่าบริการผู้ใหญ่1,300เยน/เด็ก650เยน เรือแล่นทั้งหมดวันละ8เที่ยว แต่จะหยุดวิ่งในช่วงกลางเดือนมกราถึงกลางกุมภาฯ เช็ครายละเอียดและเวลาเดินเรือ รวมถึงวิธีการเดินทางไปที่ท่าเรือได้ที่ WEBSITE : http://j-yuran.com/info.html (เวปไม่ได้แปลภาษาอังกฤษ แนะนำให้คอนเฟิร์มกับโรงแรมที่พักก่อนเดินทางนะครับ)
จากที่ขายตั้วก็จะเดินผ่านท่าเรือฟุโตะ(富戸港)ซึ่งสวยงามและมีชื่อเสียงในหมู่นักประดาน้ำ เพราะน้ำใสมาก ขนาดยืนอยู่บนท่าเรือยังมองเห็นปลาไหลเลย...สุดยอดด!! (อันนี้ต้องอาศัยดวงด้วย เพราะปลาไหลไม่ได้มาให้ดูทุกวันนะ555)
พอเรือแล่นไปเราก็จะเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามต่างๆ ซึ่งในวันที่ท้องฟ้าอากาศดีๆเราก็ยังสามารถมองเห็นภูเขาไฟโอมุโรยามะอย่างชัดเจนได้อีกด้วย สวยงามมากครับ ♬
2. มาเดินเที่ยวชมที่หอประภาคารและสะพานคาโดวากิ
※ หอประภาคารคาโดวากิ สูง24.9เมตร และเปิดให้เข้าชมฟรี โดยในวันที่อากาศดี เราก็สามารถมองเห็นหมู่เกาะทั้ง7ของอิซุ(伊豆七島)ได้อีกด้วย
※ สะพานคาโดวากิ : เป็นอีกแหล่งท่องเที่่ยวหนึ่งของโจกะซากิที่มีชื่อเสียง โดยมีความยาว48เมตร ซึ่งหากเรามองลงมาจากสะพานก็จะเห็นโขดหินที่ก้นทะเล เพราะน้ำนั้นใสมากกก พอข้ามมาอีกฝั่งก็จะถึงสวนสาธารณะโจกะซากิ&หน้าผาลาวา ซึ่งที่นี่จะไม่มีเขตรั้วหรือขอบกั้นใดๆมาสร้างไว้ เพื่อไม่ให้เป็นการทำลายทัศนียภาพ ดังนั้นละครญี่ปุ่นส่วนใหญ่ก็จะมาใช้หน้าผาที่นี่เป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำ แต่ข้อเสียของมันก็คือ มันแฝงมาด้วยอันตราย ... เพราะจากการสอบถามเจ้าหน้าที่แล้ว ก็ได้ข้อมูลว่ามีคนตกลงจากหน้าผาไปด้วยความประมาทเลินเล่อ รวมไปถึงความคึกคะนองจนทำให้ถึงแก่ชีวิต
ซึ่งวันหนึ่งทางเจ้าหน้าที่อาจจะเปลี่ยนนโยบายมาสร้างรั้วกั้นก็เป็นได้ ..ดังนั้นแนะนำให้รีบไปเที่ยวก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงนะครับ☆
ซึ่งในวิธีนี้เราจะมองเห็นวิวทิวทัศน์จากด้านทะเลเข้าหาฝั่ง ใช้เวลาในการเดินเรือไปกลับก็ประมาณ30นาที ค่าบริการผู้ใหญ่1,300เยน/เด็ก650เยน เรือแล่นทั้งหมดวันละ8เที่ยว แต่จะหยุดวิ่งในช่วงกลางเดือนมกราถึงกลางกุมภาฯ เช็ครายละเอียดและเวลาเดินเรือ รวมถึงวิธีการเดินทางไปที่ท่าเรือได้ที่ WEBSITE : http://j-yuran.com/info.html (เวปไม่ได้แปลภาษาอังกฤษ แนะนำให้คอนเฟิร์มกับโรงแรมที่พักก่อนเดินทางนะครับ)
จากที่ขายตั้วก็จะเดินผ่านท่าเรือฟุโตะ(富戸港)ซึ่งสวยงามและมีชื่อเสียงในหมู่นักประดาน้ำ เพราะน้ำใสมาก ขนาดยืนอยู่บนท่าเรือยังมองเห็นปลาไหลเลย...สุดยอดด!! (อันนี้ต้องอาศัยดวงด้วย เพราะปลาไหลไม่ได้มาให้ดูทุกวันนะ555)
พอเรือแล่นไปเราก็จะเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามต่างๆ ซึ่งในวันที่ท้องฟ้าอากาศดีๆเราก็ยังสามารถมองเห็นภูเขาไฟโอมุโรยามะอย่างชัดเจนได้อีกด้วย สวยงามมากครับ ♬
2. มาเดินเที่ยวชมที่หอประภาคารและสะพานคาโดวากิ
※ หอประภาคารคาโดวากิ สูง24.9เมตร และเปิดให้เข้าชมฟรี โดยในวันที่อากาศดี เราก็สามารถมองเห็นหมู่เกาะทั้ง7ของอิซุ(伊豆七島)ได้อีกด้วย
※ สะพานคาโดวากิ : เป็นอีกแหล่งท่องเที่่ยวหนึ่งของโจกะซากิที่มีชื่อเสียง โดยมีความยาว48เมตร ซึ่งหากเรามองลงมาจากสะพานก็จะเห็นโขดหินที่ก้นทะเล เพราะน้ำนั้นใสมากกก พอข้ามมาอีกฝั่งก็จะถึงสวนสาธารณะโจกะซากิ&หน้าผาลาวา ซึ่งที่นี่จะไม่มีเขตรั้วหรือขอบกั้นใดๆมาสร้างไว้ เพื่อไม่ให้เป็นการทำลายทัศนียภาพ ดังนั้นละครญี่ปุ่นส่วนใหญ่ก็จะมาใช้หน้าผาที่นี่เป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำ แต่ข้อเสียของมันก็คือ มันแฝงมาด้วยอันตราย ... เพราะจากการสอบถามเจ้าหน้าที่แล้ว ก็ได้ข้อมูลว่ามีคนตกลงจากหน้าผาไปด้วยความประมาทเลินเล่อ รวมไปถึงความคึกคะนองจนทำให้ถึงแก่ชีวิต
ซึ่งวันหนึ่งทางเจ้าหน้าที่อาจจะเปลี่ยนนโยบายมาสร้างรั้วกั้นก็เป็นได้ ..ดังนั้นแนะนำให้รีบไปเที่ยวก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงนะครับ☆